วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

การเสริมจมูก (augmented rhinoplasty)

ปัญหาดั้งจมูกแบน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนไทยค่ะ ซึ่งปัจจุบันสาวๆก็นิยมเสริมจมูกกันมาก จนดูกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เราสามารถเพิ่มดั้งจมูกด้วยวิธีใดบ้าง
1. ฉีดสารฟิลเล่อร์ (ไฮยารูโรนิค แอซิด)
2. ผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน
เราควรจะต้องรู้ว่าสองวิธีนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ

การฉีดสารฟิลเล่อร์  ส่วนมากทำการฉีดโดยแพทย์ผิวหนัง สารเหล่านี้สร้างขึ้นจาก hyarulonic หรือ collagen จากสัตว์ มีหลายยี่ห้อ ที่สำคัญต้องเช็คให้ดีว่าสารที่ฉีดนั้นผ่านการรับรองจาก อย. หรือไม่ สารนั้นต้องสลายได้เอง และต้องสลายได้หมด (ส่วนมากภายใน 6 เดือน - 1 ปี) ต้องไม่เหลือตกค้างนะคะ
การฉีดสารฟิลเล่อร์นั้น จะฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังบริเวณดั้งจมูก สารนั้นจะเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ถ้าไม่ชอบ ต้องการจะเอาออกนั้นยาก ส่วนมาก ต้องรอให้สลายไปเอง (ส่วนมาก6เดือน) แต่ถ้าสารนั้นไม่สลายไปเอง นี่น่าสยองมากค่ะ จะเป็นก้อนๆอยู่อย่างงั้น เช่นพวกซิลิโคนเหลว เป็นสารอันตราย และห้ามฉีด เพราะไม่สลายไปเอง และเอาออกยาก เพราะซิลิโคนเหลวจะปนไปกับเนื้อเยื่อของเรา เวลาขูดออกต้องเอาเนื้อเยื่อของเราออกไปด้วยบางส่วน
ข้อดีของการฉีดฟิลเล่อร์ คือไม่ต้องลงมีด แค่แทงเข็ม ไม่บวมมาก ฉีดเสร็จกลับไปทำงานได้ แต่ข้อเสียอีกอย่าง มันไหลได้ ต้องระวังมันผิดรูป และไม่ถาวร ผลแทรกซ้อนที่อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ได้แก่ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดขาดเลือด ผิวหนังตาย การติดเชื้อ และที่อันตรายที่สุดคือการที่สารฟิลเลอร์ไหลเข้ากระแสโลหิตไปอุดตันหลอดเลือดสำคัญ อาจทำให้ตาบอดได้ การฉีดฟิลเลอร์ควรได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น


การผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคน  ซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกนั้นปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อ มีทั้งแบบเหลาเอง และแบบสำเร็จรูป ความนุ่มความแข็งแตกต่างกัน อันนี้แล้วแต่ความชอบของแพทย์ของคนไข้ค่ะ วิธีทำก็ไม่ยากค่ะ แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณหน้าผากสองข้างและแก้มสองข้างเพื่อบล๊อคเส้นประสาท จะชาบริเวณจมูกค่ะ จากนั้นจะเหลาซิลิโคนให้เข้ากับรูปจมูกเรา แล้วค่อยกรีดแผลในรูจมูก เลาะโพรงและใส่ซิลิโคนเข้าไป
ลงแผลในรูจมูก
จมูกของคนเรานั้น ด้านบน 1/3 เป็นกระดูก ด้านล่าง 2/3 เป็นกระดูกอ่อน ซิลิโคนจะวางในชั้นเหนือกระดูกอ่อน ใต้เยื่อหุ้มกระดูก (ด้านบน1/3) จึงต้องมีการขูดบริเวณดั้งจมูกนิดนึงเพื่อเข้าในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกค่ะ
ไหมที่เย็บจะเป็นไหมละลาย ไม่ต้องตัดไหมค่ะ แพทย์จะปิดพลาสเตอร์ไว้ที่ดั้งจมูกเพื่อป้องกันซิลิโคนเลื่อนค่ะ

การดูแลหลังผ่าตัดเสริมจมูก กลับบ้านไป ให้นอนหัวสูง ประคบน้ำแข็งหรือแผ่นประคบเย็นที่หน้าผาก ห้ามโดนจมูกนะคะ เดี๋ยวเบี้ยว ห้ามแคะในรูจมูกด้วยค่ะ จนครบ 1 สัปดาห์ค่อยล้างในรูจมูก
ในช่วงเดือนแรกซิลิโคนยังเลื่อนได้ เป็นช่วงที่เบี้ยวง่ายค่ะ ห้ามนอนตะแคงเอาหน้าไปถูหมอน จมูกจะเบี้ยวได้ ถ้าเบี้ยวแล้ว มาให้แพทย์ดัดได้อยู่ค่ะ อย่ารอให้เกินเดือนเพราะจะดัดยากแล้วค่ะ
อาการบวมจะเป็นมากในช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้นจะยุบลงเรื่อยๆและเข้าที่เมื่อ 3 เดือนค่ะ

อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดได้ 

ภาวะแทรกซ้อนที่มีผลต่อสภาพร่างกาย และจำเป็นต้องไปพบแพทย์
- ปลายจมูกแดง เจ็บ มีตุ่มหนอง อันนี้อาจเกิดจากซิลิโคนยาวเกินไป ไปกดปลายจมูก ให้รีบมาพบแพทย์ อาจจะต้องผ่าตัดใหม่เพื่อตัดปลายซิลิโคนให้สั้นลง อย่ารอจนปลายจมูกทะลุนะคะ เพราะจะแก้ไขยากมาก
- ติดเชื้อ อาการจะเริ่มเกิดหลังผ่าตัดไปแล้ว 3-4 วัน จมูกบวมแดงมากขึ้น ปวด หรือมีหนองไหนจากแผล ปลายจมูกแดงเจ็บ ให้มาพบแพทย์เช่นกันค่ะ อาจต้องเอาซิลิโคนออก และกินยาปฏิชีวนะ
- แผลผ่าตัดแยก เนื่องจากซิลิโคนที่ใส่ไว้ไปดันบริเวณแผลทำให้แผลแยก ต้องมาผ่าตัดแก้ไข

ภาวะแทรกซ้อนที่มีผลต่อความสวยงาม
- จมูกเบี้ยว อันนี้อาจเกิดจากการยุบบวมสองข้างไม่เท่ากัน ส่วนมากเกิดขึ้นในช่วงเดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่เนื้อเยื่อยังบวมอยู่ ซิลิโคนยังไม่เข้าที่ กำลังค่อยๆยุบบวม การยุบบวมในอัตราที่ไม่เท่ากันทั้งสองข้าง  หรืออาจจะเบี้ยวจริงๆก็ได้ ซึ่งเกิดจากแพทย์ผ่าตัดเลาะโพรงสำหรับใส่ซิลิโคนไม่เท่ากัน ,เหลาซิลิโคนไม่เท่ากัน หรือใส่ซิลิโคนเบี้ยงแต่แรก ถ้าสงสัยก็มาให้แพทย์ผู้ผ่าตัดดูค่ะ
กรณีที่เสริมจมูกไปนานเกิน 3 เดือนแล้วพบว่าดั้งจมูกเบี้ยว มักต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด
ในกรณีที่เสริมจมูกไปแล้วนานๆสิบกว่าปี อาจเกิดภาวะพังผืดหดรัดซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนเบี้ยวได้เช่นกัน
- รูจมูกไม่เท่ากัน ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของการผ่าตัด หรือความบวมก็เป็นได้ จึงควรรอให้ยุบบวมก่อนค่อยประเมิน
- รูปร่างจมูกไม่สวยงามตามที่ต้องการ ควรคุัยกับแพทย์ผู้ผ่าตัดค่ะ


คำถามที่พบบ่อย
- หลังเสริมจมูกแล้วถ้าไม่พอใจสามารถเอาออกได้หรือไม่ : เอาออกได้ค่ะ รูปร่างจมูกมักไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม
- หลังเสริมจมูกทำงานได้หรือไม่ : ทำงานเบาๆได้ค่ะ แต่อย่าเพิ่งออกแรงหักโหมในช่วงสัปดาห์แรก
- อยากทำปลายจมูกเป็นรูปหยดน้ำจะได้ไหม : ทำได้โดยเอากระดูกอ่อนที่หูมาเสริมตรงปลายจมูก แต่จะเหลาซิลิโคนยาวเป็นหยดน้ำนั้น ทำไม่ได้ เพราะปลายจมูกจะทะลุได้ อีกวิธีหนึ่งคือฉีดฟิลเลอร์เอาที่ปลายจมูก

3 ความคิดเห็น:

  1. ดิชั้นทำจมูกได้ 2 ปีกว่าๆแล้ว ตอนนี้รู้สึกตึงๆที่ปลายจมูก และก็อยู่ในช่วงลดน้ำหนักไม่ทราบว่ามันเกียวกันหรือเปล่า แต่กลัวว่าจมูกจะทะลุออกมาเพราะปลายมันเริ่มแหลมๆ อยากทราบว่ามีทางป้องกันไม่ให้จมูกทะลุหรือเปล่าคะ หรือว่าแก้ไม่ได้ต้องทำใหม่เลย และอยากทราบว่าการนวดปลายจมูกสามารถช่วยได้จริงหรือเปล่าคะ ตอนนี้มันตึงๆที่ปลายจมูก แต่ว่ายังไม่ทะลุค่ะ
    ช่วยตอบด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  2. ถ้ามันตึงๆแดงๆและเจ็บที่ปลาย ก็น่ากลัวค่ะ ควรไปตรวจกับแพทย์ค่ะ เป็นไปได้ว่าจะใกล้ทะลุ
    วิธีแก้ไขก็เอาซิลิโคนออกมาเหลาใหม่ให้ปลายมนขึ้น ไม่ย่าวมาทิ่มตรงปลาย ส่วนวิธีนวดไม่ช่วยอะไรค่ะ

    ตอบลบ
  3. คือหนูเสริมมาได้9วันแล้วค่ะ ปลายจมูกแดงขึ้นตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ แล้วสันจมูกก้เบี้ยวด้วยค่ะ ลองจับได้เลยว่าโคนของซีลีโคนมันไปเกาะอยุ่ฝั่งซ้ายของจมูก คือเคลียดมาก มีวิธีไหนแก้ไขได้บ้างรึป่าวค่ะ

    ตอบลบ